Friday, March 30, 2012
“…ฟากฟ้าทะเลฝัน…สวรรค์อันดามันเหนือ” ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2547 สี่ปีผ่านมาแล้วที่อนุสารท่องเที่ยวอสท.ฉบับสีสันอันดามันได้ถูกเปิดขึ้นผ่านมือของผม เนื้อหาพร้อมรูปภาพไม่ถึง 20 ภาพได้กล่าวถึงทะเลอันดามันแห่งหนึ่งในน่านน้ำเมืองไทยโดยว่าไว้ถึงความเงียบสงบและความงดงามของสถานที่แห่งนี้ การรอคอยตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ของผมจากที่เคยได้ฝันไว้ว่าจะต้องมาให้ได้ ล่วงเลยมาแล้ว 4 ปีความทรงจำที่ดีจากทะเลอันดามันตอนใต้หลายต่อหลายที่ที่ผมเคยผ่านมามีประสบการณ์ภาพจำและภาพถ่ายที่สวยงามยังคงถูกเก็บไว้อย่างดี แต่ในวันนี้ถึงวันที่ผมจะได้มีโอกาสสัมผัสทะเลอันดามันตอนเหนือเป็นครั้งแรกบ้าง หลังจากที่พวกเราได้เดินทางท่องเที่ยวผ่านเส้นทางตามรายทางจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจ.ระนองมาตามแผนการณ์ที่ได้ตระเตรียมไว้ สุดท้ายพวกเราทั้ง 6 คนก็ได้เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้ ทันทีที่เสียงเครื่องยนต์ของรถดับลง ผมและเพื่อนจึงได้เข้าติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานเพื่อติดต่อเรื่องการพักนอนอาศัยโดยเราตั้งใจจะกางเต๊นท์ภายในตัวอุทยานแห่งนี้เป็นเวลาด้วยกัน 2 คืน แต่เนื่องจากอุทยานแห่งชาติแหลมสนใน ณ เวลานี้ยังไม่เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะมาพักค้างอ้างแรมได้เนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่เพรียบพร้อมสักเท่าใด ตั้งแต่คราวหลังจากได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิเมื่อปลายปี 2547 ซึ่งยังผลกระทบต่อมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่พวกเราทั้ง 6 ได้กางเต๊นท์เก็บข้าวเก็บของอาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อยแล้ว ไม่รอช้าก่อนที่จะสิ้นแสงตะวันของวันนี้ไปพวกเราจึงรีบเดินทางมายังท่าเทียบเรือซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กันกับบริเวณที่ทำการอุทยาน โดยวันนี้สิ่งที่ผมตั้งใจและบอกกับเพื่อนร่วมทางทั้งหมดไว้ตั้งแต่แรกเริ่มเดินทางแล้วว่าเราจะมาร่วมกันยืนดูพระอาทิตย์ตกที่บริเวณนี้กัน แสงของดวงตะวันที่ตกกระทบกับพื้นผิวของร่องน้ำบริเวณท่าเทียบเรือที่ตอนนี้มีเสียงสนลู่เข้าหากันให้พวกเราได้ยินกันอยู่ตลอดเวลา ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่มีมาแต่เริ่มออกเดินทาง ดูเหมือนว่าทุกคนจะลืมกันไปหมดแล้ว หลายต่อหลายครั้งที่ความฝันความหวังและการเดินทางต้องพบเจอกับสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ สำหรับผมแล้วในวันนี้ก็เช่นกันที่ผมตั้งใจว่าอยากจะเห็นภาพของดวงอาทิตย์ก้มลงจูบแตะสัมผัสกับเส้นขอบฟ้าเบา ๆ แต่ใครเลยจะบังคับธรรมชาติได้ แนวริ้วเมฆสีเทาที่มีให้เห็นในวันนี้ก็เช่นกัน แม้ผมจะไม่ได้เห็นภาพที่ตั้งใจไว้แต่กับเพื่อนทั้ง 3 และน้องสาวทั้ง 2 คนของผม ทุกคนดูเหมือนจะประทับใจมากกับภาพดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในวันนี้ คงเป็นเพราะเราหวังมากไปนี่เอง เท้าทั้งสองข้างของผมที่ยืนนิ่งอยู่ริมทะเลยังคงไม่ก้าวหนีไปไหน พร้อมปล่อยให้สายตาเป็นตัวเลือกจังหวะและท่าทีของแสงที่ตกกระทบลงเหนือคลื่น จะเหลือไว้สุดท้ายก็คงเป็นภาระของปลายนิ้วที่ทำหน้าที่คอยปลดปล่อยเสียงลั่นชัตเตอร์ให้ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เสียงคลื่นที่ค่อย ๆ ห่างไปทุกที See More..
บทความที่ได้รับความนิยม
-
เขื่อนจุฬาภรณ์ (เขื่อนน้ำพรม) ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งพระ อำเภอคอนสาร สร้างปิดกั้นลำน้ำพรมบนเทือกเขาขุนพาย ลักษณะเขื่อนเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนกลางเป...
-
ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง ใช้เส้นทางเดียวกันกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักฯอยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโ...
-
เกาะห้อง มหัศจรรย์ธรรมชาติ ในป่าเกาะ จ.กระบี่ ใน พื้นที่ “ป่าเกาะ” ของจังหวัดกระบี่ เกาะที่สวยที่สุด คือ เกาะห้อง ซึ่งมีหาดทรายสวยที่สุด ฝูง...
-
CHA-AM ATv PARK สำหรับที่ชื่นชอบกิจกรรมแบบ Extreme เมืองไทยดอทคอม ขอนำเสนอสถานที่ที่รวบรวมความมันแบบ Outdoorไว้อย่างเต็มเปี่ยม คือที่ชะอำเอท...
-
รถไฟ ถือเป็นของที่อยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมาช้านาน จากการที่ประชาชนส่วนใหญ่เน้นการใช้รถโดยสารสาธารณะไปทำงานกันเสียมากกว่าจะเลือก...
-
การเดินทางไป อำเภอปาย เมืองปาย ไปปาย เมืองปาย อำเภอปาย ห่างจากแยกแม่มาลัย 90 กิโลเมตร มาทางทางหลวง 1095?เมืองปายตั้งอยู่บนที่ราบ แม่น้ำปาย?ก...
-
สมาคมกีฬาทางอากาศและการบินแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอเดิมบางนางบวช และองค์การบริหารส่วนต...
-
ชีวิตยามเช้าของชาวปัวเองก็มีเสน่ห์ไม่แพ้เมืองไหนๆ ความเรียบง่ายตามวิถีชนบทมีให้เห็นอยู่ทั่วไป ในความเงียบสงบบนถนนสายหนึ่ง สองข้างทางถูกโอบล้...
-
ปาท่องโก๋ยัดไส้ แปลกอย่างไรนะเหรอครับ วันที่ผมไปเที่ยวเชียงคานนั้น แน่นอนต้องตื่นเช้าไปเดินเล่นแถวตลาดสด เพราะที่นั้นจะบอกถึงวิถีชีวิตของคนพ...
-
เชิญชิมปูม้าสดๆ ในงานเทศกาลชิมปูชัก เมืองชะอำ ครั้งที่ 3 Crab Pulling Festival @ Cha-Am การ ท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี ขอเชิญ...