Tuesday, December 18, 2012

เล่นสกี พิชิตความหนาวที่เกาหลีใน Fun Ski & Snow Festival


ใครๆ ยุคนี้ก็อยากไปเที่ยวเกาหลี เพราะนอกจากกระแสกิมจิฟีเวอร์ ทั้งซีรีห์เกาหลี นักร้อง นักแสดงที่คนรุ่นใหม่ในบ้านเราคลั่งไคล้กันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ในมุมอื่นๆ ของเกาหลีก็ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ที่คนไทยรู้จักจากซี่รีห์เรื่องต่างๆเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น เกาะนามิ เกาะเชจู ตลาด พระราชวังชางด็อกกุง ตลาดทงแดมุน กิมจิเฮาส์ เมียงดง N Seoul Tower ฯลฯ รวมไปถึงเมืองอื่นๆ ของเกาหลี ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ ที่ซุกซ่อนอยู่และอยากชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวกันสักครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้ สนุก! ท่องเที่ยว ก็ได้มีโอกาสบินลัดฟ้าไปเยือนประเทศเกาหลีในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิติดลบกว่าจุดเยือกแข็ง ตามคำชวนของ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (อสท.เกาหลี) ไปร่วมงานเทศกาล Fun Ski & Snow Festival ณ สถานตากอากาศยงเพียง (Yongpyong Resort) จังหวัดคังวอนโด (Gangwon-do) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเกาหลี ที่มีนักท่องเที่ยวหลงมนต์เสน่ห์ความตื่นเต้นในการผจญภัยเดินทางมาเที่ยวและพักผ่อนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนั้น ภูมิประเทศที่แสนโรแมนติกของที่นี่ก็ได้รับการกล่าวขวัญอยู่เสมอว่างดงามไม่แพ้เมืองไหนๆ ในโลกทีเดียว
พวกเราขึ้นเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิในตอนดึกๆ ใช้เวลาบินลัดฟ้าถึงสนามอินชน ประเทศเกาหลีราว 5 ชั่วโมง (แต่เวลาในประเทศเกาหลีจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ทันทีเครื่องแตะรันเวลาสนามบินในตอนสายๆ ผ่านด่านพิธีกรรมตรวจคนเข้าเมือง แล้วลากกระเป๋าใบโตผ่านประตูสนามบินไปขึ้นรถบัสคันโต ในระหว่างนี้แหล่ะที่ร่างกายเริ่มสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นของอากาศช่วงฤดูหนาวในประเทศเกาหลีว่าช่างไม่ธรรมดาเอาซะเลยเลย! ใครที่เคยเก็บคอลเล็คชั่นวินเทอร์ซุกไว้ในตู้ แล้วนานๆ ครั้งจะได้หยิบขึ้นมาสัมผัสลมหนาวในเมืองไทยกับเขาสักที อยากจะบอกว่า มาเกาหลีในช่วงนี้แหล่ะ ที่โค้ต แจ็กเก็ต ผ้าพันคอ หมวก ถุงเท้า และอีกสารพัดเครื่องทำความอุ่นจะได้งัดจากตู้ขึ้นมาจัดเต็ม แต่เชื่อไหมว่า ถึงขนาดระดมใส่พร็อพใส่มาเยอะขนาดนี้ อุณหภูมิที่เย็นเฉียบติดลบประมาณ 3 องศาเซลเซียส ยังแทรกซึมเข้าไปปะทะผิวกายข้างในจนสั่นสะท้าน อู้ย! ไม่ไหวแล้วครับ ขอขึ้นไปซุกตัวอุ่นๆ บนรถบัสก่อนดีกว่า
ในระหว่างเดินทางไปยงเพียง สกี รีสอร์ท เราก็เห็นว่าการจราจรในประเทศเกาหลีใต้นั้นสวนทางกับบ้านเรา เพราะของเขาขับชิดขวา ส่วนถนนก็ขว้างขวางอลังการงานสร้างและระดับมาตรฐาน มีอุโมงค์ยาวๆ ให้รอดอยู่เรื่อยๆ บ้านเรือนรูปทรงแปลกตาที่ปลูกเรียงรายอยู่ตามเชิงเขาและหิมะขาวๆ คล้ายเกร็ดน้ำแข็งน้ำใสที่เริ่มเกาะอยู่ตามยอดเขากับท้องถนน ก็ทำเอาหลายคนที่เพิ่งเคยเห็นหิมะเป็นครั้งแรก รู้สึกตื่นตาตื่นใจ ชี้ชวนให้เพื่อนที่นั่งงัวเงียข้างๆ ดูอย่างสนุกสนาน
หลับบ้าง ตื่นบ้าง นั่งโม้กับเพื่อนบ้าง 5 ชั่วโมงผ่านไปเราก็มาถึง ยงเพียง รีสอร์ท ซึ่งอยู่ในบริเวณช่องเขาแทกวัลเลียง ทางตอนใต้ของภูเขาโอเดซาน (หุบเขามังกร) ที่ตอนนี้ทั่วทั้งบริเวณรีสอร์ท และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองทุกแห่งถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนสะอาดตา มองไปทางไหนก็เห็นแต่ หิมะ หิมะ หิมะ กับขุนเขาสลับซับซ้อนโอบล้อมเป็นปราการธรรมชาติ จึงส่งผลให้ที่นี่มีทัศนียภาพงดงามจนยากจะบรรยายได้ถูก ที่สำคัญความงามของสถานที่เหล่านี้เคยถูกคัดเลือกให้ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครทีวี และภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชียมาแล้วหลายเรื่อง แต่ที่น่าจะคุ้นหูคนไทยมากที่สุด ก็อย่างเรื่องเพลงรักในสายลมหนาว (Winter Love Song) ในฉากรักแสนหวานท่ามกลางฤดูหนาวที่เคยนำมาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวีบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากคอซีรี่ห์เกาหลีเป็นอย่างดี หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวรีสอร์ทแห่งนี้เหมือนกับเราก็จะได้เห็นรูปคู่ของพระนางของเรื่องนี้ติดอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุด และมีนักท่องเที่ยวใช้ฉากในละครดังกล่าวถ่ายรูปตนเองและคู่รัก เป็นที่ระลึกด้วย
นอกจากนั้นในเมืองนี้ยังเคยใช้เป็นที่จัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ.1999 และจัดแข่งขันกีฬาฤดูหนาวหลายประเภทอยู่เสมอ รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เป็นภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ.2018 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 6 ปีข้างหน้าอีกด้วย ภายในยงเพียง รีสอร์ท อุณหภูมิค่อนข้างจะอบอุ่น เพราะเขาติดเครื่องทำความร้อนไว้ จึงแตกต่างกับสภาพอากาศหนาวเย็นข้างนอกแบบลิบลับ ที่พักที่นี่แบ่งออก 2 โซน แต่ละห้องกว้างขวางสะดวกสบาย นอกจากจะมีที่นอนนุ่มๆ ทีวี เครื่องทำความร้อน ฯลฯ ไว้อำนวยความสะดวกพร้อมสรรพแล้ว ด้านล่างก็ยังมีห้องอาหาร ร้านกาแฟ ให้เรานั่งดื่มสังสรรค์แก้ความหนาวอีกด้วย หรือใครไม่ชอบอากาศหนาวสักเท่าไหร่ ในฤดูอื่นๆ ของเกาหลี ที่นี่ก็ถือว่าเป็นสถานตากอากาศที่เหมาะกับการมาพักผ่อนและเล่นกีฬาอีกด้วย
และเมื่อยืนมองจากห้องพักในรีสอร์ทที่เห็นวิวลานสกีแบบเต็มตา เราก็เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากใส่ชุดกันหนาวแบบเต็มยศ เล่นสกีอยู่บนลานหินะตั้งแต่เย็นๆ จนถึงกลางคืนดึกดื่น แม้ว่าอุณหภูมิจะเย็นจนติดลบแบบที่เราไม่เคยได้สัมผัสในเมืองไทย แต่ก็พวกเขาก็ยังดูสนุกสนานร่าเริงกับกีฬามันส์ๆ บนลานน้ำแข็ง จนรู้สึกอดใจแทบไม่ไหว อยากจะไปประลองความตื่นเต้นบนลานน้ำแข็งกับเขาในวันพรุ่งนี้บ้าง
ในวัดถัดมา ก็ถึงเวลาที่เราได้ไปออกสัมผัสอากาศหนาวๆ ในอุณหภูมิแบบติดลบแบบเต็มๆ พร้อมสัมผัสหิมะขาวๆ อย่างที่ตั้งตารอคอย ลานสกีที่นี่มีความหลากหลายแตกต่างและเนินสกีถึง 31 จุด เหมาะสำหรับนักสกีมือใหม่หัดเล่นไปจนถึงฝีมือขั้นเทพ โดยในวันแรกมือใหม่อย่างพวกเราได้ไปเช่าชุดสกีเต็มยศ พร้อมอุปกรณ์การเล่น ก่อนออกไปเรียนวิธีการเล่นสกีแบบเริ่มต้นอย่างถูกต้องแบบกลุ่ม กับบรรดาเพื่อนๆ จากนานาประเทศ โดยมีครูมืออาชีพสอน หรือจะให้ครูมาสอนตัวต่อก็ได้ แต่ราคาจะแพงกว่านิดนึง ซึ่งผู้เล่นมือใหม่ไม่ต้องกังวลไป เพราะที่นี่เขาจะสอนให้เราเล่นเป็นก่อนปล่อยลงสนามจริง พร้อมวิธีการป้องกันการบาดเจ็บ ซึ่งบรรยายบรรยากาศความสนุกไม่ถูกจริงๆ รู้แต่ว่างานนี้มันส์มาก
จากนั้นก็เปลี่ยนบรรยากาศไปเช่าอุปกรณ์สโนว์บอร์ดมาลองเล่นดูบ้าง เพื่อนหลายคนที่เล่นด้วยกันบอกว่า สนุกมาก แต่ต้องใช้พลังในการทรงตัวในการเลี้ยวไปเลี้ยวมามากกว่าการเล่นสกี แม้ฝึกเล่นกันใหม่ๆ จะล้มคลุกคลานบ้าง แต่ก็เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานตื่นเต้น แถมได้เห็นวิวสวยๆ แกล้มในเวลาเดียวกัน มิน่าเราถึงได้เห็นนักท่องเที่ยวทั้งวัยนักหนุ่มสาว และพ่อแม่ พาลูกหลากหลายวัยมาเที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัว
จากนั้นก็ถึงเวลา นั่งกระเช้าสู่ยอดเขามังกร (Dragon Peak) ที่มีความสูง 1,458 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่ใครมาเที่ยวที่นี่แล้วต้องขึ้นไปสัมผัสความงดงามกันสักครั้ง อีกทั้งยังเป็นจุดสำหรับการขึ้นไปเริ่มต้นเล่นสกีของเหล่าบรรดานักสกีและนักสโนว์บอร์ดมืออาชีพ แต่สำหรับเราแค่ขึ้นกระเช้าก็นึกสนุกแล้วละ เพราะด้านบนนอกจากจะได้เห็นความสวยงามของสับซับซ้อนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะลูกแล้วลูกเล่าได้อย่างเต็มตาแล้ว ระหว่างทางด้านล่าง เรายังเห็นลานสกีที่ลัดเลาะไปตามขุนเขา พอขึ้นไปถึงจุดชมวิวก็สวยจนบรรยายไม่ถูกอีกเช่นกัน ซึ่งบนนี้อากาศหนาวจัด ขนาดวิ่งไปวิ่งมายังไม่มีเหงื่อสักหยด อุณหภูมิติดลบกว่า 20 องศาเซลเซลเซียสเห็นจะได้ วิวต้นสนที่อยู่รอบๆ ก็ขาวโพลนไปด้วยหิมะ ส่วนใครที่รู้สึกหนาวจนมือชา เท้าชา ข้างบนเขาก็มีที่พักสำหรับให้นักท่องเที่ยวหลบเข้าไปมาหาความอบอุ่น ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ก่อนออกไปตะลุยเก็บภาพสวยๆ หรือเตรียมตัวไปเล่นสกี ที่แค่มองไปรอบๆ ก็รู้สึกว่างดงามเหมือนดินแดนในฝัน
ส่วนขากลับก็เรายังนั่งกระเช้าเหมือนเดิม พร้อมกับชมวิวๆ สวยของหุบเขามังกรเป็นการปิดท้าย ก่อนลงไปสนุกกับงานจัดเลี้ยงตอนรับนักทักท่องเที่ยวที่มาร่วมงาน Fun Ski & Snow Festival ในยามค่ำคืน พร้อมการแสดงจากศิลปินชาวเกา ก่อนเตรียมตัวชมการแข่งขันสกีแบบสมัครเล่นในวันรุ่งขึ้น ซึ่งบนลานสกีจะเต็มไปด้วยนักสกีจากทั่วทุกสารทิศมาแข่งขันความมันส์กันแบบละลานตา พร้อมสัมผัสความงามของธรรมชาติที่หาดูได้ยากยิ่ง
เกาหลี มีสถานตากอากาศและเล่นสกีที่เป็นที่รู้จักของโลกหลายแห่ง และมีอุปกรณ์ไว้ให้เช่าด้วยสำหรับฤดูกาลเล่นสกีในเกาหลีจะเริ่มขึ้นราวๆ ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น แหล่งเล่นสกีจะเริ่มเปิดให้บริการกันตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป และนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวในเกาหลี ที่ควรจะหาโอกาสไปสัมผัสกันสักครั้ง รับรองว่าสนุกประทับใจไม่ลืมแน่ๆ

บทความที่ได้รับความนิยม